‘อัษฎางค์’อัด’ปิยบุตร’เพี้ยนไปเอง!!ปมจี้นักการเมืองออกหน้าหยุดม.112 เย้ยยุทธวิธีตื้นๆใช้กันมานาน

0
258

จากกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า นักการเมืองจะเป็นผู้ที่หยุดการใช้ 112 ผิดเพี้ยนได้ โดยผู้ที่จะทำให้ 112 ยุติได้อย่างแท้จริง บังเกิดผลในทางกฎหมาย ก็คือ รัฐสภา ภายใต้สถานการณ์การใช้ 112 ผิดเพี้ยนกันอย่างกว้างขวางเช่นนี้ บรรดานักการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมือง จึงต้องรับภารกิจเข้าไปเป็นเสียงข้างมาก ดำเนินการตรากฎหมายยกเลิก 112 นั้น
.
ล่าสุด นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตอบโต้ประเด็นดังกล่าวระบุว่า ปิยะบุตร กล่าวหาว่า องค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย ใช้ ม.112 เกินขอบเขต ขอบเขตของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญว่าด้วย “หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์” คืออะไร
.
ปิยะบุตร กล่าวว่า หากมาตรา 112 คงอยู่ และองค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลายนำมาใช้อย่างขยายความ เกินขอบเขต ลิดรอนเสรีภาพของประชาชน 112 ก็แผลงฤทธิ์ได้มาก มากจนเกินกว่าตัวอักษรในมาตรา 112 ก็มี ตีความคำว่า “ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย”จนผิดเพี้ยนไปหมด
.
มาดูกันว่า องค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลายตีความคำว่า “ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย” จนผิดเพี้ยนไปหมด หรือ ปิยะบุตร คือผู้ที่ผิดเพี้ยนไปเอง
.
ดูหมิ่น คืออะไร ดูหมิ่น คือการแสดงกิริยาวาจาสบประมาท, ดูหมิ่นดูแคลน ดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น ด้วยการ แสดงกิริยาท่าทาง พูดจา หรือเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร หมิ่นประมาท คืออะไร หมิ่นประมาท คือการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม อันประการจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง
.
ดูหมิ่น หมิ่นประมาท ในทางกฎหมาย ไม่ได้เป็นความผิดเฉพาะการกระทำต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น แต่ความผิดฐานะดูหมิ่น หมิ่นประมาท เป็นความผิดในการกระทำต่อ….

  1. การกระทำต่อบุคคลธรรมดา
  2. การกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ
  3. การกระทำต่อบุคคลสำคัญระดับชาติ
    เป็นข้อหาที่เรียกกันว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น เป็นความผิดที่กระทำต่อผู้ดำรงฐานะสี่อย่างของไทย ได้แก่ พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112)
    ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
    .
    ความผิดตามมาตรานี้มิได้เพียงกล่าวถึงการดูหมิ่นอย่างเดียว แต่รวมถึง “แสดงความอาฆาตมาดร้าย” ด้วย

แสดงความอาฆาตมาดร้าย คือ อาฆาตแค้น พยาบาทมุ่งจะทำร้ายให้ได้

พยาบาท คือ ผูกใจเจ็บคิดจะแก้แค้น คิดปองร้าย หรือในคำว่า ผูกพยาบาล

การแสดงความอาฆาตมาดร้าย ถ้าได้กระทำโดยการโฆษณา ก็ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน

ความผิดตามกรณีนี้ไม่ว่าจะกระทำภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรไทยก็ต้องรับโทษในราชอาณาจักร เพราะเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 7)
.
สาเหตุที่การกระทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย มีโทษสูงกว่า การกระทำผิดต่อบุคคลธรรมดาและเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่บุคคลธรรมดาและเจ้าหน้าที่รัฐ แต่พระมหากษัตริย์ เป็นประมุขแห่งรัฐ (ประเทศ) ย่อมมีความพิเศษกว่าการเป็นบุคคลธรรมดาและเจ้าหน้าที่รัฐ หากไม่มีพระมหากษัตริย์ ก็ไม่มีรัฐ (ประเทศ) เพราะพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ (ประเทศ) รัฐที่ไม่มีประมุข ก็ไม่เป็นรัฐ (ประเทศ) ความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จึงเท่ากับความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ
.
มาตรา 7
เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่บัญญัติไว้ ในมาตรา 107 ถึงมาตรา 129 ตัวอย่างมาตรา 110 ผู้ใดกระทำการประทุษร้าย หรือผู้ใดพยายามกระทำการเช่นว่านั้น หรือผู้ใดกระทำการใดอันเป็นการตระเตรียมเพื่อประทุษร้าย ต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระราชินีหรือรัชทายาท หรือต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบหกปีถึงยี่สิบปี
.
มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
.
มาตรา 116
(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน
เจ็ดปี
.
มาตรา 118 ผู้ใดกระทำการใด ๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใดอันมีความหมายถึงรัฐ เพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า, ความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เท่ากับเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ อีกด้วย ซึ่งเป็นความผิดที่ร้ายแรงกว่าความผิดต่อบุคคลธรรมดาและต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ความผิดต่อบุคคลธรรมดาและต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่มีผลกระทบต่อรัฐหรือความเป็นรัฐ แต่ความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มีผลต่อความมั่นคงแห่งรัฐ แล้วจะให้มีบทลงโทษเท่ากับความผิดต่อบุคคลธรรมดาและต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ได้อย่างไร
.
ขอยกตัวอย่าง นิว จตุพร ดูหมิ่น คือการแสดงกิริยาวาจาสบประมาท, ดูหมิ่นดูแคลน ดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น ด้วยการแสดงกิริยาท่าทาง พูดจา คนแต่งชุดไทยในวาระต่างๆ อยู่เสมอมานับร้อยๆ ปี ไม่เคยเป็นคดีความ เนื่องจากการแต่งชุดไทยไม่มีความผิด แต่การกระทำผิดตามความผิดในมาตรา 112 ของนิวนั้นมีองค์ประกอบชัดเจนหลายประการ เช่น กริยาอาการ การเดิน การแต่งกาย คนถือร่ม ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดอยู่ในบริบทของการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบสถาบันฯ นอกจากนี้ยังมีการเปิดเพลงเพลงราชวัลลภประกอบด้วย พร้อมทั้งมีการตะโกนคำว่า พระราชินี ทรงพระเจริญ
.
จตุพร แซ่อึง หรือ “นิว” สมาชิกกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก และสมาชิกกลุ่มมวลชนอาสา We Volunteer (Wevo) ถูกดำเนินคดี ม.112 เพราะแต่งชุดและแสดงกริยาล้อเลียนสมเด็จพระราชินี ซึ่งเป็นความผิดจากการแสดงกิริยาท่าทางสบประมาท ดูหมิ่นดูแคลน ดูถูกเหยียดหยาม
.
มาตรา 112 ถูกองค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลายนำมาใช้อย่างขยายความ เกินขอบเขต ลิดรอนเสรีภาพของประชาชน ตรงไหน? ข้อเท็จจริงคือ องค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย ทำตามขอบเขตที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัดทุกประการ
.
คนที่มอง 112 เป็นการปิดปากหรือคุกคามประชาชน เหตุผลก็คือ คนกลุ่มดังกล่าวตั้งใจบิดเบือน เพื่อบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะมันต้องการล้มลางการปกครอง ยุทธวิธีตื้นๆ ที่ใช้กันมานานนมของคนกลุ่มที่ต้องการล้มล้างการปกครองในประเทศต่างๆ ตั้งแต่ในอดีต เช่น รัสเซีย ฝรั่งเศส เป็นต้น ก็คือ การสร้างความกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน ซึ่งกลวิธีนี้ เขารู้ เราก็รู้ แต่คนที่ไม่รู้คือ ประชาชนที่ขาดความรู้และขวัญอ่อน
.
บุคคลและกลุ่มบุคคล ที่กล่าวหาว่า องค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลายนำมาตรา 112 มาใช้อย่างขยายความ เกินขอบเขต ลิดรอนเสรีภาพของประชาชนนั้นต่างหาก ที่พยายามบิดเบือนและบั่นทอนองค์กรในกระบวนการยุติธรรมและสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อประโยชน์ทางใดทางหนึ่ง ซึ่งสมควรถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ล้ม 112 = ล้มเจ้า = ล้มล้างการปกครอง
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #ปิยบุตรแสงกนกกุล #คณะก้าวหน้า #ม112 #อัษฎางค์ยมนาค