เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2566 นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ @PuneTreerat ว่า สำหรับท่านที่บอกว่า พรรคอันดับ 1 ควรให้พรรคอันดับ 2 เป็นประธานสภา เพราะคะแนนเสียงห่างกันไม่มาก
ผมขอถามกลับด้วยหลักการเดียวกันว่า ทำไมตอนเลือกประธานสภาปี 2562 พรรคเพื่อไทยจึงเสนอชื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นประธานสภา? ไม่ใช่ประธานสภาจากพรรคอนาคตใหม่ ทั้งๆ ที่คะแนนห่างกันแค่ 1 ล้านคะแนน และพรรคอนาคตใหม่ ขณะนั้น ก็ยกมือให้ประธานสภาจากพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ไม่แตกแถวสักคน จนได้คะแนนสูงถึง 235 ต่อ 258
วันนั้นคะแนนพรรคเพื่อไทย 7 ล้านคะแนน คะแนนอนาคตใหม่ 6 ล้านคะแนน / วันนี้ก้าวไกล 14 ล้านคะแนน เพื่อไทย 10 ล้านคะแนน ต่างกัน 4 ล้านคะแนน
ผมให้ความเห็นในฐานะประชาชนคนนอก ซึ่งผมไม่ติดว่าจะใช้วิธีไหน แต่เราจะสร้างบรรทัดฐานใหม่แบบนี้กันจริงๆหรอครับ?
ปี 44 – พรรคไทยรักไทย ชนะการเลือกตั้ง ประธานสภา – อุทัย พิมพ์ใจชน (ทรท.)
ปี 48 – พรรค ไทยรักไทย ชนะการเลือกตั้ง ประธานสภา – อ.โภคิน พลกุล (ทรท.)
ปี 54 – พรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง ประธานสภา – สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ (พท.)
ปี 65 – พรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง ส.ก. ประธานสภา กทม. – คุณวิรัตน์ (พท.)
ปี 66 – ก้าวไกล ชนะการเลือกตั้ง ทำไมประธานสภาถึงไม่ใช่ ส.ส.จากพรรคก้าวไกล?
ในเมื่อเรายึดตามหลักเสียงข้างมาก ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของระบอบประชาธิปไตย นี่พูดจากใจ ไม่ได้เสี้ยมใคร แต่ประธานสภา ควรเป็นของพรรคก้าวไกลจริงๆ #แฟร์เกม #ประธานสภา