“ตั๊ม-ปิยวุฒิ”มุ่งสร้างสังคมแห่งโอกาส หวังเห็น“สังคมไทยที่ดีกว่า”

0
417

นายปิยวุฒิ จิรธนาภา หรือ”ตั๊ม”ผู้กล้า เขตธนบุรี ระบุถึงแรงบันดาลใจในการมาทำงานการเมือง ว่า ตัวเองก็เป็นเหมือนกับประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ทั่วๆ ไปคนหนึ่ง ที่อยากจะเห็น“สังคมไทยที่ดีกว่า”และเฝ้ารอที่จะได้เห็นสังคมไทยที่ดีกว่ามาตั้งแต่ช่วงเวลาที่ผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย มาจนถึงวันนี้ ผ่านมาแล้วเกือบ 30 ปี วันนั้นก็ยังมาไม่ถึงเสียที จึงไม่อยากจะรอให้วันนั้นมาถึงอีกแล้ว ผมจึงขออาสาก้าวเข้ามาเป็นผู้แทนฯ เพื่อ “สร้างสังคมไทยที่ดีกว่า”เอง
.
นายปิยวุฒิ ยังระบุว่า นอกจากนี้เชื่อในการให้และการสร้างรากฐานที่แข็งแรง ซึ่งได้พิสูจน์มาแล้วจากการทำธุรกิจของตัวเอง ที่เน้นการสร้างคนทุกระดับ ให้มีความรู้ความสามารถ ตามงานที่ตนเองต้องรับผิดชอบ และให้โอกาสพวกเขาได้ทำงานของตัวเองอย่างมีความสุข จึงจะนำเอาความเชื่อนี้ มาปรับใช้กับสังคม โดยอาศัยช่องทางทางการเมือง เพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่าครับ
.
นายปิยวุฒิ กล่าวถึงแนวทางช่วยเหลือคนธนบุรีในช่วงโควิดทั้งหลายระลอกที่ผ่านมาว่า สถานการณ์โควิดที่ผ่านมา เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก หลายคนติดและหลายคนสูญเสีย ซึ่งนี่นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจและเข้าใจความรู้สึกของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี เพราะตนเองและครอบคัว ก็เป็นผู้โชคร้ายในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ทางแก้ไข คือการสร้าง “ความร่วมมือกันในการบริหารจัดการในระดับชุมชน” ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ตนได้เคยจุดประเด็นและให้แนวทางกับ 4 ชุมชน ในเขตธนบุรีเอาไว้ ถึงแนวทางการบริหารวิกฤติในชุมชน ทั้งการบริหารผู้ป่วยในศูนย์พักคอย กระบวนการส่งรายชื่อผู้ป่วย การส่งตัวผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ และการประสานงานกับภาครัฐ เพื่อขอรับการสนับสนุนอย่างมีประสิทธิผล
.
“น่าเสียดาย ที่ผมต้องหยุดทุกกิจกรรมเพราะผมติดโควิด แต่เพราะความร่วมมือกันของทั้ง 4 ชุมชน และภาครัฐ ทำให้ผลลัพธ์ออกมาได้ดี ไม่มีใครในชุมชนเสียชีวิตเลยแม้สักคนเดียว ซึ่งนี่เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า ความร่วมมือกันในสังคม มีความสำคัญเป็นอันดับที่ 1 ไม่ว่าวิกฤตินั้นจะหนักหนาเพียงใด ขอเพียงทุกคนยังร่วมแรงร่วมใจกัน เราจะผ่านพ้นทุกวิกฤติไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน ดังนั้น แนวทางของผม คือการประสานงาน ประสานใจ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันในสังคม ทั้งในภาครัฐ และภาคประชาชน ชุมชนเข้มแข็ง สังคมแข็งแกร่ง ประเทศชาติแข็งแรงครับ”นายปิยวุฒิ กล่าว
.
สำหรับการส่งเสริมขีดความสามารถของประเทศ ทั้งในด้านนวัตรกรรมและวัฒนธรรมนั้น นายปิยวุฒิ ระบุว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา สังคมไทยเรากำลังตื่นเต้นยินดีกับความสำเร็จของน้องลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า แบล็คพิงค์ ซึ่งหากมองในมุมมองหนึ่งแล้ว เราจะเห็นได้ว่า “คนไทยนั้นมากความสามารถ”แต่ทำไมคนมีความสามารถ กลับไม่เติบโตในเมืองไทย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา เรามีทั้ง ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตวิศวกรผู้เขียนโปรแกรมจำลองการลงจอดบนดาวอังคาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบลงจอดของยานไวกิ้ง หรือ คุณฝน ประสานสุข วีระสุนทร Head of Story ของดิสนีย์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “รายากับมังกรตัวสุดท้าย (Raya and the Last Dragon)”ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งในไทยและต่างประเทศ โกยเงินให้ดิสนีย์ได้มหาศาล


“คำถามคือ ในเมื่อความจริงแล้ว ในตัวคนไทยมีศักยภาพขั้นเทพขนาดนั้น แต่กลับไม่เติบโตในบ้านเรา ซึ่งคำตอบก็คือ สังคมไทยเรา ไม่ใช่สังคมแห่งโอกาสที่จะทำให้ผู้มีความสามารถเหล่านั้นได้เติบโต ผมเชื่อครับ ว่าคนไทยอีกหลายคนมีความสามารถไม่ได้แพ้ลิซ่า อาจารย์อาจอง และคุณฝน แต่สังคมเรายังไม่มีเงื่อนไขที่ดีพอ ที่จะทำให้ความสามารถของพวกเขาเติบโตและเบ่งบาน ดังนั้น เราต้องกล้าเปลี่ยนแปลง กล้าที่จะสร้างสังคมแห่งโอกาส สร้างสังคมไทยที่ดีกว่าเดิม”นายปิยวุฒิ กล่าว
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #พรรคกล้า #ปิยวุฒิจิรธนาภา #ผู้กล้าเขตธนบุรี