จากกรณีที่น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) ออกมาโจมตีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีคุณสมบัติและสุขภาพร่างกายไม่พร้อมในการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก และเชื่อว่าคนไทยคงไม่ต้องการเห็นผู้นำของตัวเองอยู่ในสภาพที่ต้องมีคนประคอง หรือพยุงมารับแขกบ้านแขกเมืองบนเวทีระดับโลก
.
ล่าสุด น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า การเข้ามารักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ของพล.อ.ประวิตรนั้น ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 237/2563 ที่มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีตามลำดับ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมา ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของการสืบทอดอำนาจอย่างที่รองโฆษกพรรคเพื่อไทยเข้าใจแต่อย่างใด
.
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งนี้หากพิจารณาความเห็นจากภาคเอกชนตามสื่อต่างๆ ก็ไม่ได้สะท้อนถึงความหวั่นไหวหรือวิตกกังวลต่อการเข้ามาทำหน้าที่ของพล.อ.ประวิตรแต่อย่างใด ตรงกันข้าม กลับมีความเชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆและการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด ที่สำคัญในห้วงเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนหน้านี้ ได้ดำเนินนโยบายและมาตรการต่างๆ ภายใต้วิกฤตการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย จนทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในภาวะฟื้นตัว เช่น การท่องเที่ยวที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจะเห็นได้ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น
.
“ยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยตกอยู่ในสายตาของต่างชาติ จับจ้องในฐานะที่เราจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกด้วยแล้ว การแสดงความเห็นของฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะฝ่ายนิติบัญญัติที่ถือเป็นหนึ่งใน 3 อำนาจอธิปไตยจึงต้องระมัดระวัง ในการแสดงความคิดเห็น และการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ไม่ควรเป็นตัวอย่างของการแสดงออกด้วยคำพูดหรือพฤติกรรมที่ก้าวร้าวหรือการล้อเลียนบุคคลอื่น เพียงเพื่อสะท้อนถึงนิสัยส่วนลึกที่ไม่ควรแสดงออกมาอย่างไม่วุฒิภาวะแบบนี้”น.ส.ทิพานัน กล่าว
.
