เล่าตำนาน!!ภาพจำสุดอมตะ’สมัคร สุนทรเวช’ จากผู้ว่าสู่นายกฯ คนที่คอการเมืองยุคเก่าต้องจดจำ

0
379

นายดำรงค์ นาวิกไพบูลย์ อินฟลูเอนเซอร์ทางการเมืองชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่า คอการเมืองในอดีตนั้น ไม่มีใครไม่รู้จักนักการเมืองปากร้ายสายโหดที่ชื่อ “สมัคร สุนทรเวช” อย่างแน่นอน และคุณสมัครนี่เอง ที่เป็นเจ้าของวาะกรรมสุดคลาสสิกมากมาย อาทิ “ผมถาม ไปอยู่ในที่เกิดเหตุทำไม ? ถ้านอนอยู่ที่บ้านจะตายมั้ย ?” (พูดถึง 6 ตุลา 19) “ผมไม่เห็นมีใครตาย เว้นแต่คนโชคร้ายคนหนึ่งที่ถูกเผาแล้วเผาอีก” (พูดถึง 6 ตุลา 19)
.
“6 ตุลา มีคนตายคนเดียว เป็นคนญวนที่ผูกคอตายใต้ต้นมะขาม” (พูดถึง 6 ตุลา 19) ซึ่ง ด้วยความโหดสัด ปลัดขิก ของแกนี่เองที่ทำให้แกมี “วิวาทะ” กับนักข่าว นักหนังสือพิมพ์เสมอมา เป็นนักการเมืองในยุคนั้นไม่กี่คน ที่กล้าชน กล้าหักกับสื่อมวลชน ซึ่งยุคนั้นมักทำตัวเป็นผู้มีอภิสิทธิภายใต้นาม “ฐานันดรที่ 4” เสมอมา โดยเฉพาะ “สันดานหนังสือพิมพ์” ที่ลุงหมัก จัดประเคณ แหกหน้าด่าสื่อสมัยนั้น โดยหลบเลี่ยงกฎหมายหมิ่นประมาทได้อย่างสวยงาม ถือเป็น มาสเตอร์พีส ด่ายังไงไม่ให้โดนฟ้อง ได้เป็นอย่างดี
.
อย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมของคุณสมัครนั้น เริ่มเสื่อมถอยไปในช่วง พ.ศ. 2540 เนื่องจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่รัฐบาลที่แกร่วมต้องประกาศลอยตัวค่าเงินบาท นั่นคือจุดที่แกถอยลงมาสู่การเมืองท้องถิ่น ลงสมัครชิงตำแหน่ง ผู้ว่า กทม 2543 นั่นเอง บุคลิกที่ดุดัน โผงผางของคุณสมัคร ทำให้คนกรุงเทพยัคนั้นเชื่อกันว่า แกจะมาระเบิดแฝงความล่าช้าของระบบราชการที่ห่วยแตกในสมัยนั้นได้ และคุณสมัครก็ทำสถิติ ผู้ว่า ฯ กรุงเทพมหานครคนแลกที่ได้รับคะแนนเสียงเกิน 1 ล้าน
.
ในขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แม่ยายสุดที่รักของผม ที่มาในนาม “ไทยรักไทย” ได้เพียง 5 แสนคะแนนเท่านั้นเอง และสี่ปีที่คุณสมัครเป็นผู้ว่านั้น หลังลงจากตำแหน่ง ก็พ่วง “คดีเรื่องการทุจริตกรณีจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง” แนบท้าย ซึ่งคดีนี้ยังไม่จบ แกก็ชิงลาโลกไปเสียก่อน
.
หลังหมดยุคผู้ว่า แกก็ลงสมัครเป็น ส.ว. 2549 แต่ยังไม่ทันจะมีการรับรอง ลุงสนธิ บุญรัตนกลิน ก็ชิงก่อรัฐประหารไปก่อน ระหว่างนี้ แกออกเทป รายการ “สนทนา ปัญหาบ้านเมือง” ออกรายการไปมา ไปได้ซิงเกิ้ลเพลง “หมักเห่า” พร้อมวลี “แม้ว[บิดาท่าน]ไง” จากซิงเกิ้ลนี้ออกมา ด้วยผลงานที่เข้าตา บวกกับสถานการณ์ที่พรรคไทยรักไทยร่อแร่เตรียมถูกยุบ คุณสมัครจึง “ส้มหล่น” ได้เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่เป็นร่างใหม่ของไทยรักไทย และชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา
.
ถ้าใครเคยอ่านหนังสืออัตชีวประวัติที่คุณสมัครเขียนถึงตนเอง จะเห็นตอนหนึ่งที่คุณสมัครเขียนเล่าว่า ในวัยเด็ก เคยมีหมอดูคนหนึ่งทำนายว่า อนาคตคุณสมัครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ณ พ.ศ. 2540 ผมคิดว่า วันนั้นคุณสมัครคงจะถอดใจ และถอยลงมา หลังเป็นผู้ว่า กทม 1 สมัย พบว่าตัวเอง ไม่ได้มีผลงานดีอย่างที่รน กทม คาด เลยขยับไปเล่นสนาม ส.ว. ซึ่งเป็นสนามใหม่ จนได้คะแนนเป็นอันดับ 2 รองจาก นิติภูมิ เนาวรัตน์ คอลัมนิสต์ไทยรัฐ ที่เขียนคอลั่มได้น่าสนใจมาตลอดหลายสิบปี
.
จนมาดับเมื่อเจอผู้มีอิทธิผลจากชลบุรี นาม ป้าเช้ง มาดับอนาคตเอา สุดท้าย ดวงแกจะได้เป็นนายก ฯ จริงจริง เลยมีราชรถชื่อ “พรรคพลังประชาชน” โดย “ทักษิณ ชินวัตร” จัดสร้าง มาพาแกได้ขึ้นเป็นนายก ฯ สมปราถนา จนกระทั่ง มาสะดุดเพราะถูกฟ้อง และตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งนายก ฯ เพราะไปทำรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” ซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญ และหลังจากนั้น ชื่อของแกนั้น ก็เงียบหายไป กระทั่ง ถึงแก่กรรม 24 พย 2552 หลังพ้นตำแหน่งไป 1ปี
.
บางคนว่า แกถูกหักหลังจากการขึ้นตำแหน่งนายก ฯ จนเป็นเหตุให้แกตรอมใจตายในภายหลัง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ระหว่างที่แกเป็นนายก ฯ แกก็มีผลงานอยู่เหมือนกัน เช่น รัฐสภาหลังใหม่ ที่มีประเด็นเรื่องมีคลับ มีสปากันอยู่ ก็เป็นคุณสมัครนี่แหละเป็นผู้ริเริ่ม และเป็นนักการเมืองยุคเก่าเพียงไม่กี่คนที่มีภาพลักษณ์ติดดิน โดยคุณสมัครมักจะลงไปเดินตลาดอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่มีก็ตาม และในมุมของความเป็นนักเขียน คุณสมัครเป็นคอลัมนิสต์ประจำของต่วยตูน และเป็นคนที่มีความสามารถในการเล่าเรื่องยากให้สนุกน่าติดตาม ซึ่งผมเอง ก็เป็นแฟนคอลัมน์ของคุณสมัคร พูดได้เลยว่า ทั้งรัก และเกลียดแกในเวลาเดียวกัน
.
นอกจากนี้ ภาพจำของแกในสภา ตั้งแต่หนุ่มยันแก่คือ “การพับนก” ฟังอภิปรายเบื่อ ๆ ถ้าแกไม่พับนก ก็จะอ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง คุณสมัครจะหยิบมาอ่านในสภาบ่อยมาก ไม่รู้ทำไม แต่แน่นอนว่า การพับนก และเล่นกับนกกระดาษที่แกพับ คือหนึ่งในภาพจำสุดอมตะ ที่คอการเมืองยุคเก่าจะจดจำแกได้อย่างแน่นอน
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #ดำรงค์นาวิกไพบูลย์ #สมัครสุนทรเวช #อดีตผู้ว่า #อดีตนายก