เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม กลุ่มภราดรภาพ ร่วมกับคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และเครือข่ายสังคมนิยมประชาธิปไตย จัดเสวนาวิเคราะห์การเมืองไทยเรื่อง “เส้นทางประชาธิปไตยในความขัดแย้งทางการเมือง กับเดิมพันอนาคตสังคมไทย” โดยมีนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล(มายด์) สมาชิกคณะราษฎร นายพริษฐ์ วัชรสินธุ(ไอติม) แกนนำกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า และนางสาวณัฏฐา มหัทธนา ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย และคณะผู้ริเริ่มเชิญชวนแก้รัฐธรรมนูญ ม.272 ร่วมอภิปราย
.
โดยนายเมธา ระบุว่า การเติบโตของทุนนิยมไทยในการสร้างหลักประกันให้แก่ตนเองและผนึกกำลังทางธุรกิจ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันแบบซึ่งหน้า จึงมีการรวมกันก่อตั้งสมาคมชาวจีนขึ้น ผู้นำของสมาคมส่วนใหญ่มาจากพ่อค้าผู้มีฐานะมั่งคั่งที่สุด บุคคลผู้นี้จะทำหน้าที่เจรจาสร้างไมตรีกับข้าราชการไทยระดับสูง ผลที่ตามมาก็คือพ่อค้าชาวจีนส่วนน้อยกลุ่มหนึ่งได้รับอภิสิทธิ์เต็มที่ และเนื่องจากข้าราชการไม่มีความรู้ทางพาณิชย์ จึงปล่อยให้พ่อค้าคนจีนเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่รัฐเป็นฝ่ายริเริ่ม คล้ายรัฐบาลประชารัฐของพล.อ.ประยุทธ์ในปัจจุบันนี้ ธุรกิจผูกขาดดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจึงเริ่มก่อตัวขึ้นในระยะนี้ กลายเป็นธุรกิจที่แนบแน่นทางการเมืองมาถึงปัจจุบัน
.
นายเมธา ระบุว่า ระบบดังกล่าวเปิดทางให้พวกข้ารัฐการระดับนำยินยอมยกอภิสิทธิ์หลายประการแก่นักธุรกิจชาวจีนบางกลุ่ม ตระกูลใหญ่ๆ เหล่านี้ทุกตระกูลล้วนพัฒนาธุรกิจของตนโดยอิงทุนแห่งรัฐเป็นเครื่องมือ และการแย่งชิงอำนาจการเมือง จึงเท่ากับความมั่งคั่งในการถือครองทรัพย์สินและยึดครองกรรมสิทธิ์ในประเทศไทย รัฐบาลประยุทธ์ ก็เป็นตัวแทนของประชารัฐแบบเก่าที่ปัจจุบันมีผู้มีอำนาจยึดกุมการปกครองคือ 3 นายพลอาวุโส ที่ควบคุมกองทัพ กำกับตำรวจ และเชิดสถาบันเป็นเครื่องมือ โดยต่างตอบแทนด้วยกฎหมายเอกสิทธิ์ทั้งปวงให้ฝ่ายสำนักพระราชวัง
.
นายเมธา ระบุว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไทยคือ ระบอบประยุทธ์ มีที่มาจาก 3 ป.1 ม. สถาปนาระบอบอำนาจนิยมใหม่ ด้วยความคิดขวาจัดและสร้างฟาสซิสต์แบบไทยๆ ขึ้นเชิดสถาบันกลายเป็นคู่ความขัดแย้งกับประชาชน โดยสร้างรัฐผสมระหว่างคณาธิปไตยและราชาธิปไตย ด้อยค่าระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หลายคนอาจคิดว่ากลไกอำนาจนิยมของประยุทธ์คือ นายทุน ขุนศึกเสนาพาณิชย์ ศักดินาหรืออีลีททั้งหลาย และข้าราชการ แต่ตนคิดว่าองค์กรประกอบค้ำบัลลังค์ของระบอบ 3 ป. ในปัจจุบันที่แท้จริง คือ 1.เจ้าสัว 2.กองทัพ 3.ตำรวจ 4.ป.ป.ช. และ 5.ศาลรัฐธรรมนูญ
.
“ขอเรียกร้องอีลิท เจ้าสัว จับมือกับนักศึกษาประชาชน โค่นล้มระบอบ 3 ป. ที่ครอบงำการเมืองไทย นี่คือเดิมพันอนาคตของบ้านเมือง เนื่องจากตัวแปรและทางเลือกที่จะเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย ด้วยการไม่นองเลือดและสูญเสียของประชาชนทุกฝ่ายมีทางเลือกหลายหนทาง ไม่ว่าจะเป็นบทเรียนและข้อเสนอบทเรียนจาก คอป. กลไกอิสระ คณะกรรมการสมานฉันท์แห่งรัฐ หรือบทบาทรัฐสภา ซึ่งปัจจุบันอาจต้องการคนกลางที่สามารถมอบนโยบายให้องค์กรอิสระ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร และตุลาการ ที่สามารถให้ความเป็นธรรมกับประชาชนได้”นายเมธา กล่าว
.
ด้านน.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า คณะราษฎรได้โปรยดอกไม้ประชาธิปไตยไว้แล้ว และเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 คนหนุ่มสาวก็ไม่ลืมเรื่องนี้ พวกเขาต่อสู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญ ปัจจุบันประชาชนไทยจึงได้ตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้นในการแสวงหาความจริง ทำไมคนรุ่นใหม่ออกมามากมาย การยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นเพียงฟางเส้นสุดท้ายเรื่องการเห็นความไม่เป็นธรรมทางการเมือง มันทำให้เห็นเสียงของโหวตเตอร์ (Voter) ไม่มีความหมาย เลยเกิดแฟชม็อบต่างๆ มากมาย ออกมาเรียกร้องและแสวงหาความจริง
.
“อยากจะบอกว่ากลุ่มเจ้าสัวที่เป็นทุนใหญ่ในสังคมเป็นประเด็นหนึ่งที่อยากพูดถึง เขามีแต่รวยเอาๆ แต่ถ้าไปดูพ่อค้าแม่ค้าในแผงตลาดแทบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว ความมั่งคั่งกระจายอยู่ในกลุ่มทุนใหญ่ที่มีอยู่ส่วนน้อย ซึ่งรัฐบาลควรแชร์ส่วนนี้ให้ประชาชน แต่กลับกดให้จนแล้วแจก ควบรวมอำนาจ สืบทอดอำนาจ เพื่อผลประโยชน์ของตน ทำให้ประชาชนสิ้นหวังในการลืมตาอ้าปาก จึงต้องออกมาต่อสู้เพื่ออนาคต น.ส.ภัสราวดี กล่าว
.
ขณะที่นายพริษฐ์ กล่าวว่า โจทย์ทางการเมืองในปี 2565 คือทำอย่างไรให้เราไม่เดินไปสู่จุดนั้นและประชาธิปไตยมีการพัฒนาที่ก้าวหน้าขึ้นซึ่งรวมไปถึง การทำงานเชิงความคิดนอกสภา เพื่อขยายแนวร่วมในประเด็นต่างๆ และการผลักดันการเปลี่ยนแปลงในสภา โดยการเลือกตั้งที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในปี2565 จะเป็นบทพิสูจน์ว่าประชาชนสามารถหนุนส่งผู้แทนเข้าสู่ระบบเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากแค่ไหน
.
นายพริษฐ์ ระบุว่า ส่วนความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนยังจำเป็นต้องทำผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ2560 ด้วยวิธีที่เรียกว่า “การฉีดวัคซีน 2 เข็ม” เข็มที่ 1 คือการแก้ไขรายมาตรา เพื่อให้มีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่มุ่งแก้ปัญหาต้นตอของวิกฤติการเมืองในปัจจุบันคือกลไกสืบทอดอำนาจของระบอบประยุทธ์ขั้นพื้นฐานที่สุดคือการยกเลิกมาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว. ร่วมเลือกนายกฯ ขั้นสูงสุดคือ การเอา ส.ว.250 คนออกไปและใช้สภาเดี่ยวชั่วคราว รวมถึงปฏิรูปที่มาของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ และแก้ไขเรื่องสิทธิเสรีภาพในบางมาตราเพื่อคุ้มครองประชาชนให้รัดกุมยิ่งขึ้น
.
นายพริษฐ์ ระบุอีกว่า เข็มที่ 2 คือการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด โดยใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้งเพื่อช่วยรับประกันว่าจะได้ สสร. ที่มีความหลากหลาย และ สสร. ต้องมีอำนาจพิจารณาแก้ไขทุกหมวดทุกมาตรา เพื่อเป็นพื้นที่ปลอดภัย
ในการหาฉันทามติของทุกฝ่าย
.
นางสาวณัฏฐา กล่าวว่า ความขัดแย้งนั้นเป็นสิ่งปกติในทุกสังคมโดยเฉพาะในสังคมประชาธิปไตย แต่ความขัดแย้งในระดับที่ไม่ปกติคือความขัดแย้งในระดับที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นมลพิษ จนกระทั่งไม่อาจสื่อสารกันด้วยเหตุผล จะเห็นว่าในฟากฝั่งทางการเมืองมีการจับผิดหรือโจมตีซึ่งกันและกันตั้งแต่เรื่องใหญ่ไปจนถึงเรื่องหยุมหยิมและอยู่ในบรรยากาศของความเป็นศัตรูกันตลอดเวลา จนกระทั่งมีสื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตโดยยกตัวอย่างบรรยากาศการเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ว่ามีการโจมตีกันด้วยสาเหตุของความเป็นขั้วตรงข้ามทางการเมืองมากกว่าจะเป็นที่คุณสมบัติหรือเนื้อหานโยบายของผู้สมัคร ซึ่งเป็นภาพสะท้อนสิ่งที่เรียกว่า “Toxic Politics” หรือการเมืองเป็นพิษ
.
นางสาวณัฏฐา กล่าวว่า การจะแก้ปัญหาความขัดแย้งในระดับที่เป็นมลพิษเช่นนี้จึงต้องดับที่เหตุ ค่อยๆคลายล็อคและคลายปมต่างๆจนความขัดแย้งกลับมาสู่ระดับที่เป็นปกติและเป็นคุณต่อสังคมประชาธิปไตย ซึ่งเห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นปกติเป็นเรื่องสำคัญ และหากจะให้จัดลำดับความสำคัญก็ยืนยันอย่างที่เคยพูดไว้ว่าการทำให้ “กติกาการเข้าสู่อำนาจ”เป็นไปอย่างเป็นธรรมเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด
.
“ในฐานะหนึ่งในคณะผู้เชิญชวนเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อเสนอรัฐสภาตามกฎหมาย จึงอยากขอเชิญชวนประชาชน ส.ส.และส.ว.ร่วมกันลดเงื่อนไขความขัดแย้งทางการเมืองด้วยการช่วยกันทำสนามเลือกตั้งให้เป็นธรรมและเป็นปกติ โดยในเดือนหน้าทางคณะจะมีการเปิดตัวเว็บไซต์เข้าชื่อห้าหมื่นรายชื่อเพื่อเสนอแก้รัฐธรรมนูญเพียงมาตราเดียวนี้ และขอกราบเรียนเชิญท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้มาร่วมเป็นหนึ่งในห้าหมื่นรายชื่อด้วยกัน เพราะท่านคือหนึ่งในบุคคลสำคัญที่จะช่วยกันหยุดการเมืองเป็นพิษได้”นางสาวณัฏฐา กล่าว
.
‘โบว์-มายด์-ไอติม-เลขาฯครป.’จี้อีลิท-เจ้าสัว จับมือนักศึกษาโค่นล้มระบอบ 3ป. ทางเลือกเปลี่ยนผ่านปชต.
- Advertisement -