‘จตุพร’ย้อนสัมพันธ์ลึกซึ้ง’ทักษิณ-สุเทพ-สนธิ ลิ้ม’ จวกยับไอโอหน้าโง่!!งัดรูปร่วมโต๊ะกินข้าวปั่นกระแสใส่ร้าย

0
444

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และอดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ความคับแค้น แปรเปลี่ยนเป็นพลัง โดยตอบโต้ขบวนการไอโอปกป้องเพื่อไทย นำรูปถ่ายกับสุเทพ เทือกสุบรรณ มายัดเยียดใส่ร้ายว่า รับงานวิพากษ์วิจารณ์ถล่มทักษิณ ชินวัตร นายจตุพร ประเมินถึงวิกฤตในอนาคตว่า ว่า จะเกิดขึ้นจาก 2 เรื่องสำคัญคือ กรณีตะวัน-แบม และคำประกาศกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร โดยวิธีพิเศษ
.
นายจตุพร ระบุว่า ในส่วนการอดอาหารของตะวัน-แบมนั้น เมื่อสถานการณ์เดินมาถึงจุดตรึงเครียดยิ่งขึ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีส่วนสำคัญในการสร้างปัญหาให้ ม.112 ขยายตัวมากขึ้น จึงต้องเป็นผู้ดึงฟืนออกจากไฟ เนื่องจากปฎิเสธไม่ได้ว่า พระราชประสงค์ของ ร.10 ไม่ต้องการดำเนินคดีกับใคร ด้วยเหตุนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นคนสร้างความเดือดร้อนให้ ร.10 ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประมุขฝ่ายบริหารกับประมุขฝ่ายตุลาการต้องหารือหาทางออกร่วมกัน เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นโดยไม่คาดคิด จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้
.
“ตะวัน-แบม อดอาหารเดิมพันชีวิตอย่างเอาจริง ฝ่ายรัฐจะประเมินด้วยเหตุการณ์อดอาหารแบบเดิมๆไม่ได้ และเรื่องนี้จะอาศัยความสะใจหรืออคติหรือความเป็นการเมืองไม่ได้เลย แต่แก้ไขได้อย่างเดียวคือให้คุณค่าความเป็นมนุษย์ที่จะดึงไฟออกจากฟืนก่อนที่จะเกิดวิกฤตรุนแรง จนลุกลามเป็นไฟลามทุ่งอย่างที่คาดไม่ถึง”นายจตุพร กล่าว
.
นายจตุพร กล่าวว่า กรณีการประกาศกลับบ้านของทักษิณนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ใครอาจจะคิดว่าไม่มีอะไร เนื่องจากประกาศมาหลายครั้งก็ไม่ได้กลับและไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้ประกาศในช่วงเวลาที่กำลังจะได้เสียทางการเมือง และยิ่งมาประกาศไม่ใช้กฎหมาย ไม่พึ่งเพื่อไทยหรือรอมชอมกับพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้น ในทางกฎหมาย คดีที่มีโทษจำคุกเป็นที่สุดแล้ว ทักษิณต้องเข้าเรือนจำอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้น ใครจะไปดีลโดยไม่สมควรดีล ซึ่งได้เริ่มต้นดีลแล้วยิ่งจะทำให้กลายเป็นชนวนใหญ่ เท่ากับปลุกผี พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาหลอกหลอนสังคมไทย จนกลายเป็นชนวนเผชิญหน้าของฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์และฝ่ายทักษิณ อีกครั้งหนึ่งอย่างไม่จำเป็นเลย
.
“เมื่อเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง และทักษิณกลับบ้านจะกลายเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งแตกแยก แล้วนำไปสู่การล้มกระดานทั้งปวง ดังนั้นพวกเราจึงตอกย้ำเตือนให้ยึดประเทศไทยต้องมาก่อน เพราะความแตกแยกรุนแรงท่ามกลางการเลือกตั้ง ยิ่งทำให้ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากการปกครอง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทหารหรือนักการเมืองก็ตาม”นายจตุพร กล่าว
.
นายจตุพร กล่าวถึงการแตกหักกับทักษิณ และถูกขบวนการไอโอระบาดทำลายมากขึ้นว่า ที่ผ่านมาตนเจอปฎิบัติการไอโอจากทั้งฝ่ายเสมอ ขณะนี้ฝ่ายทักษิณได้แพร่รูปตนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั่งร่วมโต๊ะอาหารในงานเลี้ยงแต่งงานลูกของชาดา ไทยเศรษฐ์ นักการเมืองคนสำคัญขณะสังกัดพรรคชาติไทย โดยมีเจตนาทำให้เข้าใจผิดแล้วหวังทำลายตน
.
นายจตุพร ชี้แจงรูปนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับนายสุเทพ ว่า ข้อเท็จจริงแรก สุเทพเป็นเพื่อนทักษิณ ในช่วง 4 ปีแรกที่ทักษิณเป็นนายกฯ แต่สุเทพนั่งเลขา ปชป. เป็นฝ่ายค้าน และไม่เคยอภิปรายทักษิณสักครั้งเดียว สามารถตรวจค้นความจริงกันได้ทั่วไป สองทักษิณ เคยไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้านสุเทพถึง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และเครือข่ายยังซื้อหุ้นสหกรณ์โคออฟร่วมลงทุนกับสุเทพด้วย
.
นายจตุพร กล่าวว่า นอกจากนี้ลูกน้องมือทำงานคนสำคัญของสุเทพ ปัจจุบันเป็นกรรมการบริหารระดับรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อีกทั้งถึงการเลือกตั้งปี 2548 สุเทพเริ่มมีปัญหาขัดแย้งกับทักษิณ แล้วนัดเจรจากันที่บ้านพิษณุโลก ตอนนั้นตนอยู่ในทีมโฆษกพรรคได้แถลงข่าวเสนอให้ทักษิณเลิกคบกับสุเทพ อีกอย่างในบทบาททางการเมือง ตนกับสุเทพต่างทำหน้าที่อยู่กับคนละฝายกันทั้งในการอภิปรายฟาดฟันในสภา และต่อสู้กันหยิบตาบนท้องถนน ไม่มีอะไรลดราวาศอกกันเช่นเดิม กระทั่งได้มาคุยกันตัวต่อตัวในวันเจรจาก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จะยึดอำนาจปี 2557 ซึ่งเป็นการคุยกันครั้งสุดท้ายและไม่ได้คุยกันอีกเลย
.
ส่วนกรณีรูปภาพถ่ายกับนายสุเทพนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ชาดา เป็นนักการเมืองใจนักเลง มีมิตรอยู่แทบทุกพรรค ซึ่งตนชอบนักเลงการเมืองมากกว่านักธุรกิจการเมือง เพราะพูดคำไหนคำนั้น ไม่ว่าอยู่ซีกไหน ไม่มีอะไรซับซ้อน จึงได้คบค่าสมาคมกัน แต่นักธุรกิจการเมืองพูดวันนี้ พรุ่งนี้เป็นอีกอย่าง จากนั้น ชาดา ชวนไปงานแต่งงานลูกในเดือนมกราคม ปี 2559 ตนก็ไปและเจอสุเทพ ก็เดินดิ่งเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะ จึงมีภาพถ่ายปรากฎ สิ่งสำคัญ เมื่อเป็นงานแต่งงานก็ต้องมีมารยาทกันตามประเพณีต้องให้เกียรติเจ้าภาพ จะฟาดฟันกันยับเยินได้อย่างไร อีกอย่างถ้าตนหลบหนีสุเทพไปนั่งโต๊ะอื่น ก็จะถูกอีกฝ่ายด่าอยู่ดี พวกไอโอจะให้ตนไปรบกันในงานแต่งงานหรือ?
.
นอกจากนี้ ในงานแต่งบางงานของอดีต ส.ส.เพื่อไทย สุเทพก็ไปเช่นกัน เพราะเขามีเพื่อนมากทุกพรรค เมื่อครั้งงานแต่งของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งจัดทั้งที่บ้านเจ้าบ่าวและเจ้าสาว กรณีงานจัดที่บ้านเจ้าสาวนั้น สุเทพเป็นประธานจัดงาน เพราะสนิทกับพ่อเจ้าสาว ช่วงนั้นเสื้อแดงสู้กันเต็มบ้านเมือง ตนจึงไม่ได้ไป แต่เมื่อจัดบ้านณัฐวุฒิ มีจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นประธาน ตนก็ไป เมื่อสุเทพไปงานแต่งงานณัฐวุฒิได้ ก็ไม่เห็นขบวนการไอโอทั้งสองฝ่ายรุมถล่มว่าอะไร
.
นายจตุพร กล่าวว่า แต่อยู่ดีๆ ตนไปนั่งร่วมโต๊ะกินช้าวกับสุเทพในงานแต่งเมื่อปี 59 ผ่านมา 7 ปีแล้ว ขบวนการไอโอก็เอามาปั่นกระแส โยงถึงการถล่มทักษิณก็ว่ากันไป แต่ตนถล่มทักษิณเพราะมาดูถูกกันเมื่อเร็วๆ นี้เอง จะให้รอจนกว่าเลือกตั้งเสร็จแล้วจะตอบโต้หรืออย่างไรกัน
.
อีกทั้งกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างทักษิณกับสนธิ ลิ้มทองกุล ว่า ช่วงนั้นทีมทำนโยบายให้ทักษิณเป็นลูกน้องสนธิทั้งนั้น อีกทั้งสนธิกับทักษิณยังไปมาหาสูกัน และสนธิ ก็เชียร์ทักษิณอย่างเดียวเช่นกัน ดังนั้น พวกตนจึงเป็นแค่ปลายแถวเท่านั้นในความสัมพันธ์
.
“พวกไอโอปั่นกันสนุกว่าผมรับงานมา คิดว่าเสร็จแน่ คิดจะทำให้ผมเจ็บจึงปลุกปั่นกันใหญ่กับภาพร่วมโต๊ะงานแต่งลูกชาดากับสุเทพเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่ลูกน้องของสุเทพก็นั่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ลูกน้องสนธิ ก็เป็นมือทำนโยบายของทักษิณ อย่ามาสู้กับผมในเรื่องนี้เลยเสียตัวเปล่าๆ จะขาดทุนผม แหลมมาโดนจัดหนักอีก ผมไม่มีอะไรเสีย แต่คุณจะเสียชนิดฉิบหายวายวอดจะบอกให้พวกขบวนการไอโอหน้าโง่ทั้งหลาย นี่ปั่นกันมาหลายวันแล้ว”นายจตุพร กล่าว
.
นายจตุพร ระบุว่า รูปถ่ายกับไพศาล พืชมงคลว่า ขณะนี้ฝ่ายเพื่อไทยเริ่มเชียร์ไพศาลมากขึ้นแล้ว เพราะไพศาลช่วงนี้จะเชียร์เพื่อไทย รูปภาพจิตอาสาที่ตนถ่ายกับไพศาลในวันครองราชของ ร.10 แล้วใส่เสื้อเหลือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยคนใหญ่คนโตไปหลายคน อีกทั้งลูกทักษิณมีใครไม่ใส่เสื้อเหลืองบ้าง ถ้านับเป็นจิตอาสาแล้วพานทองแท้ ชินวัตร สมัครก่อนตน แต่ไม่เป็นไรอีก ยกเว้นนายจตุพร ใส่เสื้อเหลือง เป็นจิตอาสา ก็เอาเป็นเอาตายกันเลย
.
ส่วนที่ถามว่าน้อยใจโชคชะตาตัวเองหรือไม่ เมื่อพูดเรื่องทักษิณ จะถูกคนเสื้อแดงรุมใส่ร้าย นายจตุพร กล่าวว่า การทำลายใดๆ ให้เรียงหน้ามา ในการต่อสู้เพื่อประชาชนที่ผ่านมา ถ้าตนมีบาดแผลก็คงถูกขย่มหมดแล้ว ที่ผ่านมาเล่นใต้ดิน สวนใต้เข็มขัดก็ทำอะไรตนได้บ้าง เมื่อโผล่หน้ามาหนึ่งก็ต้องกระทืบทันที ดังนั้น ตนจึงไม่รู้สึกอะไร เพราะเห็นหมดทั้งวินาทีความตาย ยากลำบาก และคนเห็นแก่ตัว ถ้าตนมีบาดแผลจะถูกคนพวกนี้ขย้ำจมเขียวแล้ว
.
“ที่เขาไม่ตอบเพราะตอบไม่ได้ ถ้าผมไม่ซื่อสัตย์ในการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงตายทุกวินาที แต่พวกวินาทีหนีปลอดภัยทำเป็นเก่ง ผมจะไม่เล่าความจริงของแต่ละคน ถ้ามารุกรานกล่าวหาก่อน ผมก็ต้องอธิบาย เพราะในสนามต่อสู้มันมีอันตราย เรารู้จักคน และเราเห็นอย่างไงก็พูดเช่นนั้น เพียงแต่สังคมนี้เต็มไปด้วยคำคนสอพลอ เล่นละครให้ดูดีเข้าไว้ ซึ่งไม่ใช่ผม”นายจตุพร กล่าว
.
นายจตุพร กล่าวว่า คนเมื่อมีอำนาจไม่ต้องการฟังความจริง อยากฟังในสิ่งที่ตัวเองอยากฟัง ยิ่งทักษิณวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ฟังคนอื่นนั้น ตนจึงขอให้ทักษิณ นึกถึงตอนที่ตัวเองเป็นนายกฯ จนกระทั่งบัดนี้ เคยฟังใครบางหรือเปล่า มักฟังแต่สิ่งสรรเสริญเยินยอที่เป็นความเท็จ แต่คนที่เป็นผู้ปกครองที่ดีต้องฟังรอบด้าน ส่วนใหญ่คนมีอำนาจมักเสียงดังแต่หูตึง จึงไม่ได้ยินความจริงอะไรเลย ซึ่งเป็นธรรมชาติ
.

ThePoint #ข่าวการเมือง #จตุพรพรหมพันธุ์ #นปช #เสื้อแดง #สุเทพเทือกสุบรรณ #ทักษิณ